• Latest News

    วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2558

    ต้นยางวายูเล่ (Guayule): จากเนปาลสู่เท็กซัส

    ต้นยางวายูเล่  (Guayule): จากเนปาลสู่เท็กซัส
       ต้นยางวายูเล่นั้นสามารถเติบโตได้ดีทั้งในเนปาลและในเขตปกครอง Collin County รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่าสภาพแวดล้อมในเขตปกครอง Collin County นั้นแตกต่างจากเนปาลมาก เนื่องจากเนปาลเป็นพื้นที่ที่มีความสูงหลายระดับตั้งแต่ 70 เมตรไปจนถึง 8,848 เมตรของยอดเขาเอเวอร์เรส แต่รัฐเท็กซัสจะมีสภาพภูมิอากาศในเขตเทือกเขาสูงและร้อนชื้น แต่ที่น่าแปลกคือ ต้นยางพันธุ์นี้ไม่เพียงแค่จะสามารถปลูกในที่นี้ได้เท่านั้นแต่มันยังสามารถเจริญเติบโตได้ดีอีกด้วย ต้นยางสายพันธุ์วายูเล่ (Parthenium argentatum Grey) เป็นไม้พุ่มเตี้ยมีความสูงประมาณ 3 ฟุต ซึ่งเป็นลักษณะของพันธุ์พืชพื้นเมืองของรัฐเท็กซัสตอนใต้แต่สามารถเติบโตได้ในรัฐเท็กซัสตอนเหนือในสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็น วายูเล่เติบโตได้ดีที่สุดในสภาวะที่แห้งแล้ง ต้องการน้ำเพียงเล็กน้อยและไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลง และช่วยอนุรักษ์ดินได้
        ในแง่ของธุรกิจขนาดใหญ่จะต้องการปลูกต้นยางธรรมชาติ เนื่องจากยางธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นยางล้อรถขนาดใหญ่หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์มากมายกว่า 300 ชนิด ผู้ผลิตยางรายใหญ่ 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถผลิตยางธรรมชาติได้ประมาณร้อยละ 80 ของโลก จากการปลูกยางสายพันธุ์ฮีเวีย (Hevea) แต่อาจก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้มากกว่า International Rubber Study Group คาดการณ์ว่า จะเกิดการขาดแคลนยางในปี พ.ศ. 2553 ซึ่งจะส่งผลให้ราคายางธรรมชาติพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สหรัฐอเมริกานำเข้ายางธรรมชาติมากกว่า 1.2 ล้านตันต่อปีและมีปริมาณการใช้ยางคิดเป็นร้อยละ 14 ของการใช้ทั่วโลก ซึ่งคิดเป็นเงินประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 
        ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีการนำต้นยางวายูเล่มาปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา เช่น ในรัฐเท็กซัสเป็นพื้นที่ประมาณ 32,000 เอเคอร์ และกลับมาได้รับความนิยมอย่างมากอีกครั้งหนึ่งในช่วงปี พ.ศ. 2523 ที่มีวิกฤตการณ์โรคเอดส์ (AIDS crisis) ที่มีปริมาณการใช้ถุงมือยางมากขึ้น ซึ่งจะพบว่ามีประชาชนจำนวนมากมีอาการแพ้โปรตีนในน้ำยาง โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ประมาณร้อยละ 8-12 เกิดอาการแพ้หรือไวต่อการกระตุ้นของยางธรรมชาติสายพันธุ์ฮีเวีย
        ปัจจุบัน Yulex Corporation ในรัฐอริโซน่าเป็นบริษัทระดับสากลแห่งแรกที่ผลิตน้ำยางธรรมชาติจากต้นยางสายพันธุ์วายูเล่ Dr. Katrina Cornish ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่สุดของโลกด้านการเพาะปลูกยางและยังเป็นรองประธานอาวุโสฝ่ายวิจัยและพัฒนาของบริษัท Yulex กล่าวว่า พื้นที่มากกว่าหนึ่งล้านเอเคอร์ในรัฐเท็กซัสได้รับการดูแลอย่างดีสำหรับการปลูกต้นยางวายูเล่ ยางสายพันธุ์นี้ใช้เวลาการปลูกเพียง 2 ปีก็สามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้และยางสายพันธุ์สามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว เก็บเกี่ยวโดยใช้เครื่องจักรได้ และสามารถผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ยางได้หลากหลาย
        นอกจากนี้ Martin ประธานและ CEO ของบริษัท Yulex Corporation ระบุว่า สหรัฐอเมริกามีความต้องการที่จะปลูกต้นยางวายูเล่ให้ได้ 4 ล้านเอเคอร์เพื่อการผลิตยางให้เพียงพอต่อการใช้ภายในประเทศ ทั้งยางธรรมชาติเป็นวัตถุดิบที่มีการนำเข้ามากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากน้ำมัน แต่ไม่มีเหลือสำหรับเป็นสินค้าคงคลัง ถ้าการผลิตยางจากเอเชียมีการหยุดชะงัก จะทำให้ไม่มียางสำรองเพียงพอ
       ดังนั้นจึงได้มีการทดลองปลูกต้นยางสายพันธุ์วายูเล่ในระดับชุมชนเพื่อต่อยอดในการขยายเป็นการปลูกในเชิงพาณิชย์ในอนาคตต่อไป
    ที่มา..http://www.forestrynepal.org ประจำวันที่ 13 กรกฏาคม 2553
    และ
    http://www.rubbercenter.org/news/news_13july2010.html
    • Blogger Comments
    • Facebook Comments

    0 ความคิดเห็น :

    แสดงความคิดเห็น

    Item Reviewed: ต้นยางวายูเล่ (Guayule): จากเนปาลสู่เท็กซัส Rating: 5 Reviewed By: phangngachannel
    Scroll to Top